ผู้เยี่ยมชม

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตามหา..นางฟ้า

กลอนนี้เขียนเมื่อปี 2010 โดย..เบญจมาศสีขาว (๓ บลา) 
ที่ห้องมาดกาพย์กลอน บ้านราชดำเนิน

ขอบคุณเพื่อนๆ และนักร้อยเรียงตัวอักษร ที่ช่วยแต่งแต้มวลี
ที่แสนไพเราะจนเป็นกลอนหวานวันนี้



เธอคือสาว สดใจ หัวใจสวย
งดงามด้วย ความดี เป็นสีสัน
คือนางฟ้า คนดี ที่ผูกพัน
แม้คืนวัน ผันผ่าน เนิ่นนานมา....

คำดีดี ที่ให้ ในวันหนึ่ง
ยังตราตรึง ดวงจิต ติดตามหา
คำห่วงใย เสมือนหนึ่ง ได้พึ่งพา
จากนางฟ้า คนนี้ แสนดีใจ....

แล้วคำพูด ดีดี ก็หนีจาก
เหลือเพียงซาก ความจริง สุดยิ่งใหญ่
ทิ้งวันวาน หวานหยด อดอาลัย
เธอจากไป อย่างเงียบงัน ไม่ทันลา....

หากว่าเธอ เดินผ่าน ณ บ้านนี้
ทักทายพี่ มาบ้าง นะนางฟ้า
ยังรอคอย คำเฉลย เอ่ยออกมา
แค่คำว่า "จากด้วยดี" แค่นี้พอ....

ฝนก็ยัง โปรยปราย แม้บ่ายแล้ว
โอ้ดวงแก้ว เธออยู่ไหน กับใครหนอ
ยิ่งเขียนไป ใจยิ่งช้ำ น้ำตาคลอ
ยังเฝ้ารอ นางฟ้า มาทักทาย....

หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียน:  ใครหนอ ทำคุณสามบลาได้ลงคอ


คงมิใช่ เขาคนนั้น ที่ท่านเอ่ย
ซ้ำไม่เคย รู้จัก ทักมาก่อน
แต่นางฟ้า คนนี้ ที่อาวรณ์
คือสาวอ้อน คนหนึ่ง ซึ่งพบพา....

เธอเป็นสาว สวยใส หัวใจมั่น
ผ่านคืนวัน ฝันค้าง ต่างโหยหา
เป็นมิ่งมิตร สนิทแนบ แอบอุรา
คือนางฟ้า คนนี้ ที่ติดตาม....

จากคุณ..น้องใหม่ร้ายยซะ... 


หากว่าเธอ เดินผ่าน ณ บ้านนี้
ทักทายพี่ มาบ้าง นะนางฟ้า
ยังรอคอย คำเฉลย เอ่ยออกมา
แค่คำว่า "จากด้วยดี" แค่นี้พอ....

ฝนก็ยัง โปรยปราย แม้สายแล้ว
โอ้ดวงแก้ว อยู่ไหน กับใครหนอ
ยิ่งเขียนไป ใจยิ่งช้ำ น้ำตาคลอ
ยังเฝ้ารอ นางฟ้า มาเยี่ยมเยือน....

...อ่านแล้วเหงา เศร้าใจ อาลัยนัก
สุดจะหัก ห้ามจิต เคยคิดเหมือน
ความรู้สึก ครั้งเก่า เข้ามาเยือน
มาย้ำเตือน พาลพา น้ำตาคลอ

...ขออวยชัย ให้คุณ เบญจมาศขาว
ให้พ้นเศร้า พ้นเหงา ปวดร้าวหนอ
ขอให้คุณ ประสบ พบคนรอ
อยากจะขอ พรให้ได้...ดวงใจคืน 


จากคุณลมหวน...

เบญจมาศสีขาว หนาวหัวอก
ร้าวระทก ตกลงห้วง บ่วงกระหวัด
จะแข็งขืน ขื่นวิโยค โศรกกำซัด
ยื่งร้อยรัด ตัดอย่างไร ไม่ได้เลย

ทุกคำถ้อย ค่อยกระจ่าง อย่างช้าช้า
คำนางฟ้า หวานจับใจ ใช้เอื้อนเอ่ย
ภาพแสนดี ที่มีให้ ไม่เลือนเลย
หนาวฝนเอย ไหนจะเท่า เหน็บหนาวใจ

มันมากมาย หลายนิยาม ของความรัก
จะเพียรผลัก ยื้อยุด ฉุดไม่ได้
ยามดอกรัก ผลิบาน หวานหัวใจ
อาจร้องไห้ เมื่อรักบั่น ร้าวรันทด

ระหว่างวัน ของอารมณ์ ที่ข่มได้
ปลอบดวงใจ อย่าชอกช้ำ ฝืนกำสรด
ขอเพียงผ่าน พร่ำเฉลย เพื่อเชยชด
ได้แทนทด ที่จากไป ไม่ร่ำลา 

อ่านคำหวาน จับใจ น้องใหม่ฯ แล้ว
เสียงเจื้อยแจ้ว กังวาน สราญชื่น
ใจดวงน้อย เคยช้ำ แสนกล้ำกลืน
ผ่านวันคืน กลับเหงา ยิ่งเศร้าตรม

เหมือนน้ำทิพย์ หยดหนึ่ง ซึ่งสูงค่า
หล่นจากฟ้า สุลาลัย มาให้ผม
ส่งความหวาน กลับคืน ไปชื่นชม
สู่ภิรมย์ คุณน้องใหม่ฯ ให้ตอบแทน

เบญมาศสีขาว....

คุณลมหวน ครวญคำหวาน สะท้านนัก
คนริรัก อย่างผม ระทมไหว
วิปโยค โศกเศร้า ทนเหงาใจ
หาอุ่นไอ ไหนเลย จะเคยมี....

เริ่มหนาวเหน็บ เจ็บบ้าง ทุกย่างก้าว
อันเรื่องราว เศร้าไป จริงไหมนี่
แค่อยากเห็น นางฟ้า เอ่ยพาที
ณ ตรงนี้ ที่ยัง เคยฝังจำ....

คำว่ารัก สลักทรวง เป็นบ่วงแท้
เลยต้องแย่ ทนเหงา ทุกเช้าค่ำ
เพราะคำพูด สวยสด เลยจดจำ
จึงลำนำ ร้อยรส เป็นบทกลอน....

คงต้องรอ อารมณ์ อันขมขื่น
ยิ้มระรื่น คืนรัก จนถักถอน
จึงจะลืม รอยเศร้า ที่ร้าวรอน
คำวิงวอน คงเห็น เป็นเรื่องจริง....

จากคุณ pingun (ผิงอัน) ......


อ่านคำกลอน ตอนร้าวราน สะท้านจิต
อิทธิฤทธิ์ ต้องพิษรัก จักบ่มหนอง
ต่างชอกช้ำ คร่ำครวญหา น้ำตานอง
ไม่ได้ครอง สองแนบชิด จิตอาลัย

คนอยู่ใกล้ ในสายตา หาได้ห่วง
มิเคยหวง ดวงสมร แลอ่อนไหว
เฝ้าคนึง ถึงขวัญตา นางฟ้าไกล
อยู่ที่ใด ไม่เห็นหน้า พะว้าพะวง

ดังโบราณ จีนสอน เป็นกลอนว่า
มีวาสนา ห่างพันลี้ ไม่มีหลง
สักวันหนึ่ง ถึงเวลา ชะตาชง
สองเจ้าคง ได้พานพบ ประสบกัน

หากมาดแม้น แคลนขาด ซึ่งวาสนา
ตั้งใจมา หาให้เจอ เธอกับฉัน
อยู่ตรงหน้า กลับไม่เห็น เป็นสำคัญ
ฟ้ามากั้น ให้แคล้วคลาด อนาถใจ

ขอภาวนา คุณเบญจมาศฯ สมปรารถนา
ให้เทวา พาคำกลอน อันอ่อนไหว
ที่ได้กลั่น ออกจากกลาง หว่างฤทัย
ล่องลอยไกล ในนภา นางฟ้าได้ยิน

เบญจมาศสีขาว....

คุณผิงอัน กลั่นร้อยกรอง ร่ำร้องว่า
วาสนา ถ้ามี ไม่หนีสิ้น
แม้โหยรัก ถวิลหา เป็นอาจิณ
ต้องโบยบิน จับจอง เจ้าของใจ....

อ่านคำปลอบ ชอบจัง แอบนั่งยิ้ม
ดวงตาพริ้ม อิ่มละมุน เกื้อหนุนให้
ความเศร้าโศก วิโยคยิ่ง กว่าสิ่งใด
หล่อหลอมให้ ความหวานชื่น กลับคืนมา....

แม้จะอยู่ ห่างไกล ใจยังห่วง
เหมือนเป็นบ่วง คล้องไว้ ให้โหยหา
แม้เธอฝาก ตราบาป คราบน้ำตา
รอนางฟ้า คนดี ไม่มีใคร....

ขอขอบคุณ คุณผิงอัน ในวันนี้
ปลอบฤดี แม้ผม ตรมหมองไหม้
ยังช่วยนับ วันคอย อย่าน้อยใจ

ฟ้าสดใส รอนางฟ้า กลับมาเอง.... 

คุณ M-INTEGRATE....

...เขาว่ารัก รักได้ แต่อย่าหลง

แต่ท่านคง ถลำลึก กว่าครั้งไหน

เอาเป็นว่า ถ้าหาก ท่านเสียใจ

ให้ละไว้ นะหนึ่งห้วง แห่งเวลา

...ความหมายคือ เสียใจ น่ะเสียได้

จะฟูมฟาย พร่ำเพ้อ ละเมอหา

จะรองไว้ ให้เต็มถัง ด้วยน้ำตา

ให้นางฟ้า ไว้ส่องเงา ท่านเศร้าตรม

...แต่ขอเพียง ตะวันขึ้น ให้ใจตื่น

ให้กายฟื้น จากความเศร้า ร้าวรักขม

เพราะอกหัก ที่จริงแท้ เหมือนแค่ลม

เพียงพัดห่ม ครั้งคราว ก็ผ่านไป

...ท่านจะกำ ไม่มีวัน กำลมได้

มือท่านคลาย คงไม่พบ แม้มุมไหน

ขอเพียงยอม ปล่อยสิ่งโศก ให้ผ่านไป

รอลมไหม่ พัดมา หาอีกคราว... 


เบญจมาศสีขาว....

อันความรัก สลักทรวง เป็นบ่วงคล้อง
เสียงร่ำร้อง โหยหา ในคราหนาว
ท่านปลอบโยน ฟังชัดถ้อย ร้อยเรื่องราว
แล้วบอกกล่าว คำว่า อย่าเสียใจ....

หยดน้ำตา ไหลเอ่อ เพราะเพ้อฝัน
ไม่มีวัน กลับฟื้น คืนสดใส
เพียงเห็นเงา เขานั่น ฝันไปไกล
น้ำใสใส ยังเอ่อรวม ไหลท่วมตา....

ดวงตะวัน สดใส วันใหม่แล้ว
สาดแสงแนว ทางเห็น เส้นขอบฟ้า
ความงดงาม ตามที่ เคยมีมา
ส่องนำพา ให้ใจ ไม่กังวล....

เหมือนลมพัด ผ่านไป ก็ไม่เห็น
ยามซ่อนเร้น อยากแตะต้อง ยังล่องหน
เหมือนกรรมพา ลิขิต ชีวิตคน
ความทุกข์ทน คงเริ่มพราก จรจากลา.... 

จากท่านตะขบดอง....

@ค่อยค่อยแง้ม เปิดดู กระทู้นี้
เห็นแต่มี กลอนหวาน น้ำตาลผสม
อ่านดูแล้ว เป็นเหงา เศร้าอารมณ์
มีคนตรม พร่ำเพ้อ ละเมอครวญ

@ตามหากัน ไม่เจอ ชะเง้อคอย
สุดแสนหงอย คอยอยู่ ดูกำสรวล
เสียงหมู่มิตร ปลอบกัน ให้รัญจวน
ก่อชนวน เพิ่มโศรก วิโยคกาล

@ไฉนจึง ไม่ทำใจ ลืมเธอเสีย
ห่างคลอเคลีย เนิ่นนาน กาลอาจผลัน
เธออาจพบ ประสพใหม่ ใจตรงกัน
คงไม่หัน คืนมา อย่าเสียใจ

@มีหลายสาว คอยปรอบใจ ไม่ใช่หรือ
หลายคนถือ วิสาสะ เข้ามาใกล้
รอโอกาส คุณเบญฯ เห็นเปลี่ยนไป
แล้วไฉน ไม่เลือกรัก ซักหนึ่งนาง 


เบญจมาศสีขาว....

อ่านคำท่าน บอกมา มันน่าคิด
เรื่องน้อยนิด แค่นั้น ลืมมันบ้าง
อย่ามัวนั่ง ใจลอย ให้ปล่อยวาง
รีบสะสาง ตัวเรา ให้เข้าใจ....

แต่ละท่าน ปลอบโยน โดนทั้งนั้น
ชีวิตมัน สั้นนัก เรื่องรักใคร่
ยังจะมัว นั่งพะวง หลงห่วงใย
เขาอาจไป พร่ำพรอด กอดอีกคน....

ใจเจ้ากรรม นั่นเอง เก่งแต่ปาก
ทั้งที่อยาก ลืมไป ให้ผ่านพ้น
ยามหลับตา ภาพนั้น มันลอยวน
จึงสับสน หัวใจ เอาไงดี....

ท่านตะขบดอง ร้องเอ่ย เหมือนเคยนะ
แล้วใครล่ะ เขาจะสน หนุ่มคนนี้
หากเป็นท่าน คงเนื้อหอม ยอมพาที
ผมหลายปี กว่าจะเห็น เป็นตัวตน.... 


ท่านผู้เฒ่า2492 

ขึ้นกระทู้ ถึงนางฟ้า เอ๊ะฟ้าไหน
หรือจะใช่ "นางฟ้า นะยะ"หนอ
ไม่เห็นมา ห้องกลอน ยังคอยรอ
ไม่ได้พ้อ แต่ตามเธอ อยู่เหมือนกัน

ถามเจ้าของ กระทู้ จะดีกว่า
เป็นนางฟ้า ที่ผมว่า ใช่ใหมนั่น
หากไม่ใช่ ขออภัย ตัวท่านพลัน
ถ้าอย่างนั้น ขออภัย ที่เอ่ยนาม

แต่ยิ่งอ่าน ยิ่งสงสัย ใครคนนี้
ยึดพื้นที่ กลางใจใคร อยากใคร่ถาม
จะได้ร่วม ผสมด้วย ช่วยติดตาม
เชิญเธอข้าม ท่องเวบฯ มาพบกัน



เบญจมาศสีขาว....

ท่านผู้เฒ่า ถามมา นางฟ้าไหน
เธอถึงได้ แต่งเติม ให้เพิ่มฝัน
คงไม่ใช่ คนที่เอ่ย เฉลยพลัน
นางฟ้า นะยะนั้น มิใช่เลย....

แค่เธอเป็น คนดี ที่แสนรัก
เอาศรปัก กลางดวงใจ ใคร่เฉลย
เป็นนางฟ้า ที่อบอุ่น จนคุ้ยเคย
แต่ลงเอย แบบเงียบงัน ไม่ทันลา....

คนช่างฝัน อาจเห็น เป็นแค่ฝัน
ไม่มีวัน เป็นจริง สิ่งเสาะหา
คำอาลัย อาวรณ์ ให้ย้อนมา
คงมีค่า เพียงคำพูด พิสูจน์ใจ....

จากท่านกล่องไม้....


ยินเสียงร่ำ ร้องกลอน อ้อนนางฟ้า
เหมือนปิ่มว่า จะขาดใจ ลงให้ได้
เสียงคร่ำครวญ หวนหา สุดอาลัย
แสนกินใจ ให้รันทด หดหู่จริง

อยากจะเจอะ นางฟ้า คนนั้นด้วย
เธอคงสวย หมดจด งดงามยิ่ง
เบญจมาศสีขาว รวดร้าวจริง
ร่ำเป็นกลอน อ้อนอิง ให้กลับมา

ขอให้เทพ เทวดา ปล่อยเธอเถิด
ให้เธอเกิด เป็นมนุษย์ เสียเถิดหนา
ด้วยแรงรัก ของทั้งสอง ต้องอุรา
เพื่อนของข้า จักต้องตรม ข่มขื่นใจ

แสนจะเศร้า ยินกลอน คำอ้อนออด
เหมือนได้กอด ทุกข์ด้วย ช่วยไฉน
เพียงส่งกลอน พรช่วย เป็นแรงใจ
ให้นางฟ้า ที่ลาไป ได้หวนคืนHeart

เบญจมาศสีขาว....

อ่านบทกลอน ตอบมา น้ำตาไหล
เหตุไฉน อ่อนแอ เพียงแค่เห็น
ตัวหนังสือ พริ้วหวาน จนซ่านเซ็น
หัวใจเต้น ไม่เป็นส่ำ คำปลอบใจ....

คำหวานซึ้ง ตรึงจิต ผมคิดหนัก
ร้อยเรียงถัก ปักจอง คุณกล่องไม้
คำวาจา ที่เอ่ย เฉลยไป
คงสวยใส สมจริง เป็นหญิงงาม....

รอเทวดา ปล่อยนางฟ้า คืนมาให้
ถักทอไว้ ให้เห็น เป็นคำถาม
หรือองค์อินทร์ ใกล้ชิด เฝ้าติดตาม
จึงคอยห้าม นางฟ้า อย่ามาเลย....

ขอส่งใจ ดวงน้อย คอยถามข่าว
บอกเรื่องราว ผมบ้าง อย่าห่างเฉย
จะรอคอย เติมใจ ให้เหมือนเคย
อย่าบอกเลย ว่านางฟ้า ไม่มาแล้ว....

จากท่านกาษิณ.....

..คิดถึงสาว คนหนึ่งที่ เคยผูกพัน
 อยู่ไหนกัน หนอคนดี ของพี่ข้าฯ
 วันทั้งวัน ก็ไม่เห็น ผ่านเข้ามา
 หย่อนกิ๊ฟให้ ไว้ต่างหน้า ก็ยังดี

...รู้หรือไม่ เบญจมาศฯ พี่ของข้าฯ
ท่านแทบบ้า เพ้อรำพัน ทุกวันวี่
อยู่ไหนหนอ? น้องนาง ผู้ใจดี
ผ่านมาที่ กระทู้นี้ บ้างคนงาม

..."เธอคือสาว สวยใส เหมือนในฝัน"...
เคยมอบให้ อ่านทุกวัน ที่ผันผ่าน
แต่วันนี้ งอนอะไร ใยนงคราญ
ปล่อยพี่เบญจฯ ร้องขาน เพ้อคนเดียว.....



เบญจมาศสีขาว....


ท่านมาอ้อน สาวให้ ผมใจปลื้ม
คำดูดดื่ม ฉอเลาะ ช่างเพราะหวาน
เธอแค่เป็น สาวสวยใส ในตำนาน
มิอาจผ่าน เดินบน ถนนดิน.....

คำ"นางฟ้า" น่ายล ของคนฝัน
เอ่ยจำนรร พรรณา ว่าสูญสิ้น
แท้จริงแล้ว เธออยู่ใกล้ แอบได้ยิน
ท่านกาษิณ เอ่ยตาม เพื่อถามเธอ....

คงเง้างอน ตามประสา คนน่ารัก
ก่อนเคยทัก สลักทรวง ห่วงเสมอ
มาวันนี้ หนีไกล มิได้เจอ
คงต้องเพ้อ ชะเง้อคอย อย่างน้อยใจ....

กราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่อ่านครับ

เบญจมาศสีขาว (๓ บลา ประชาไท)

๗ ต.ค.๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น